การทำแท้งอย่างถูกกฎหมายในประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นหัตถการหนึ่งในทางการแพทย์ที่ปลอดภัยมาก การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย(เช่น ทำโดยผู้ที่ไม่ได้รับการอบรมฝึกฝนมาอย่างถูกต้อง)ทำให้มารดาเสียชีวิตถึง 70,000 ราย และทุพพลภาพ ถึง 5,000,000 รายจากทั่วโลก ในแต่ละปีมีการทำแท้งเกิดขึ้น 42,000,000 ครั้งทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มีถึง 20,000,000 ครั้งที่ทำโดยไม่ปลอดภัย มีเพียงร้อยละ 49 ของประชากรหญิงทั่วโลกที่เข้าถึงการทำแท้งเพื่อการรักษาและการทำแท้งโดยสมัครใจในอายุครรภ์ที่เหมาะสม
การทำแท้งมีมาในประวัติศาสตร์นานแล้ว โดยใช้วิธีการต่างๆ ทั้งการใช้สมุนไพร ของมีคม วิธีทางกายภาพและวิธีการดั้งเดิมต่างๆ ในขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันทำแท้งด้วยยาหรือศัลยกรรม แต่ละพื้นที่ทั่วโลกมีมิติทาง[[กฎหมาย] ศาสนา วัฒนธรรม และความนิยมที่มีต่อการทำแท้งแตกต่างกันไปโดยในบางพื้นที่มีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงในประเด็นทางจริยธรรมและ[[กฎหมาย]เกี่ยวกับการทำแท้ง การทำแท้งและประเด็นเกี่ยวกับการทำแท้งถูกหยิบยกมาเป็นหัวข้ออภิปรายและใช้ในการวางนโยบายทางการเมืองหลายประเทศ ทั้งในสายสนับสนุนที่เห็นว่าการทำแท้งเป็นสิทธิของสตรีที่ตั้งครรภ์และสายต่อต้านที่เห็นว่าทารกที่กำเนิดขึ้นมาในครรภ์มีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกัน อุบัติการณ์ของการทำแท้งทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงจากการเข้าถึงสุขศึกษาการวางแผนครอบครัวและการบริการเพื่อการคุมกำเนิดที่มีมากขึ้น
การแท้งมีหลายแบบ 1. การทำแท้ง 2 .การแท้งเอง 3 .การแท้งด้วยยา3. การทำแท้งด้วยศัลยกรรม4. การทำแท้งด้วยวิธีอื่น
และมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องทำแท้งคือการที่เด็กจะออกมาแล้วไม่สมประกอบ เช่น ไม่แขน ขาพิการตามร่างกายก็สามารถที่จะทำแท้งได้แบบที่ไม่ผิดกฏหมาย
วัยรุ่นหญิงอยู่หอนอก เสี่ยงท้องและโรคติดต่อทางเพศ!
ปัจจุบันปัญหาเด็กและเยาวชนได้ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และมีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่ จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา เป็นศูนย์กลางการพัฒนาและเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอินโดจีน อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตบัณฑิตรองรับตลาดแรงงานที่ขยายตัว เพราะว่ามีสถาบันการศึกษาจำนวนมาก จึงพบว่ามีหอพักเอกชนในจังหวัดพิษณุโลกที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหรือเรียกว่า “หอพักเถื่อน” มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรอบๆสถานศึกษา จากข้อมูลการศึกษาพบว่าการที่เยาวชนรวมตัวกันอยู่ในหอพักนอกสถานศึกษา พบการใช้เวลาว่างที่ไม่เป็นประโยชน์ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ยาเสพติด การดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ มากกว่าเยาวชนที่พักหอในสถานศึกษา มากถึงประมาณ 6 เท่า
สาเหตุส่วนมากของการท้องในกลุ่มเยาวชน คือ
1) มาจากครอบครัวที่มีระดับเศรษฐกิจและการศึกษาในระดับต่ำ รายได้น้อย
2) อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
3) ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศศึกษา การวางแผนครอบครัว การคุม
กำเนิดที่ถูกต้อง
4) มีเจตคติและค่านิยมต่อการตั้งครรภ์หรือการยอมรับการมีบุตร
5) ขาดวุฒิภาวะที่เหมาะสมด้านอารมณ์และประสบการณ์
แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ควรมียุทธศาสตร์การป้องกันการตั้งครรภ์และโรคเอดส์ในวัยรุ่นโดยเฉพาะ เน้นในเรื่องการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของหญิงที่อายุต่ำกว่า 20 ให้มากขึ้น รณรงค์ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา อนามัยเจริญพันธ์ เพื่อการป้องกัน การคุมกำเนิด การวางแผนครอบครัว ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคและตั้งครรภ์ ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องความเป็นตัวตนชาย และ หญิง ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ อยู่ในแผนแม่บท นโยบายระดับประเทศ ระดับจังหวัด รวมทั้งแผนระดับอำเภอ ตำบล มีการบูรณาการการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยผ่านการใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ มีการติดตาม กำกับประเมินผล ศึกษาวิจัยหารูปแบบการดำเนินงานให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ต่อไป
“ ไม่ใช้เข็มร่วมกัน สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง หยุดยั้งโรคเอดส์ ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น